ซิฟิลิส (Syphilis) โรคติดต่อที่ไม่ควรมองข้าม

 


 ซิฟิลิส (Syphilis) โรคติดต่อที่ไม่ควรมองข้าม


              ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย และอาจส่งผลรุนแรงหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อ Treponema pallidum ซึ่งสามารถแพร่จากคนหนึ่งสู่อีกคนได้ง่ายผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือแม้กระทั่งผ่านการจูบหากมีแผลในปาก



ซิฟิลิส ติดต่อได้อย่างไร?

การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก โดยไม่ป้องกัน

การสัมผัสกับแผลริมแข็ง (แผลซิฟิลิส)

การถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกระหว่างตั้งครรภ์หรือการคลอด

การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น (แม้จะพบไม่บ่อย)


อาการของซิฟิลิสในแต่ละระยะ

ซิฟิลิสมีการดำเนินของโรคเป็น 4 ระยะ โดยแต่ละระยะจะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกัน:


ระยะที่ 1 (Primary Stage)

แผลริมแข็งบริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก

แผลไม่เจ็บ และจะหายได้เองภายใน 3-6 สัปดาห์


ระยะที่ 2 (Secondary Stage)

ผื่นขึ้นตามร่างกาย ฝ่ามือ ฝ่าเท้า

ไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต

อ่อนเพลีย ผมร่วง แผลในปาก


ระยะแฝง (Latent Stage)

ไม่มีอาการแสดงชัดเจน

เชื้อยังคงอยู่ในร่างกายและอาจพัฒนาไปสู่ระยะที่ 3 ได้


ระยะที่ 3 (Tertiary Stage)

เกิดขึ้นหลังติดเชื้อนานหลายปีโดยไม่รักษา

เชื้อทำลายหัวใจ สมอง ตา กระดูก และระบบประสาท

อาจทำให้เสียชีวิตได้


การวินิจฉัยและรักษา

                การตรวจเลือด เป็นวิธีหลักในการวินิจฉัยซิฟิลิส หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วย ยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะ เพนิซิลลิน (Penicillin G) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุด


หมายเหตุ: หญิงตั้งครรภ์ควรเข้ารับการตรวจโรคซิฟิลิส เพราะอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์



การป้องกันโรคซิฟิลิส

ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์

หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย

งดการมีเพศสัมพันธ์หากมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ

ตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

แจ้งคู่ของคุณหากติดเชื้อ เพื่อเข้ารับการตรวจรักษา


         💢  แม้ซิฟิลิส จะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่รับการรักษา อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือสงสัยว่าตนเองอาจติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาอย่างถูกต้องโดยเร็ว

Post a Comment

Previous Post Next Post